สำหรับเมื่อท่านถูกฟ้องเป็นจำเลย หรือถูกแจ้งความตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีอาญาไม่ว่าข้อหาใดก็ตาม โดยปกติแล้วจะต้องมีการประกันตัว ไม่ว่าเป็นการประกันตัวในชั้นใดก็ตาม เช่น ในชั้นศาล หรือในชั้นโรงพัก เขาเรียกว่าเป็น “การประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญา”
การประกันตัวนี้ตามหลักแล้วเป็นการขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี (ระหว่างพิจารณาคดีศาลยังไม่มีคำพิพากษา ยังไม่รู้ว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่อย่างไรต้องรอสืบพยานก่อน)

 

แต่ละข้อหาประกันตัวเท่าไหร่

แต่ละข้อหา อัตราประกันตัวก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความหนักเบาแห่งข้อหาต่างๆ ซึ่งแต่ละข้อหาทำประกันกี่บาทก็จะมีอัตรา หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหากำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่แต่ละหน่วยงานของแต่ละศาล อาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง หรือในชั้นศาลกับชั้นโรงพัก ก็อาจจะไม่เท่ากัน ให้ตรวจสอบรายละเอียด ที่ต้องใช้ที่หน้างานหรือโทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่า

 

การประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาตอนไหนบ้าง

ปกติจะมีการประกันตัวอยู่ใน 2-3 ช่วงเวลาคือ
1. ถ้าผู้เสียหายแจ้งความและเราไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีนี้อาจจะต้องมีการประกันตัวในชั้นโรงพัก
2. เมื่อเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนทำสำนวนส่งให้สำนักงานอัยการอาจจะมีการประกันตัวในชั้นอัยการ
3. เมื่ออัยการส่งฟ้องต่อศาลในวันที่อัยการยื่นฟ้องศาลก็จะต้องมีการประกันตัว
4. กรณีผู้เสียหายฟ้องตรงต่อศาล และศาลประทับฟ้องและ คดีมีมูลแล้ว ก็จะต้องมีการประกันตัวในวันนัดสอบคำให้การ ซึ่งในวันนี้จำเลยจะต้องยื่นคำให้การสารภาพหรือปฏิเสธด้วย (ทนายเป็นผู้ดำเนินการ)
5. กรณีในชั้นศาล เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกจำเลย จำเลยสามารถประกันตัวในศาลชั้นอุทธรณ์ได้
6. กรณีศาลชั้นอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำคุกจำเลย จำเลยสามารถยื่นขอประกันตัวในชั้นฎีกาได้
7. กรณีผู้เสียหายแจ้งความและ เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก และผู้ต้องหา ไม่ไปตามหมายเลขและมีการออกหมายจับ เมื่อเข้ามอบตัวหรือเมื่อจับตัวได้ก็ต้องประกันตัว
8. กรณี จำเลยไม่ไปศาลในวันนัดสอบคำให้การ ศาลจะออกหมายจับ เมื่อจับตัวจำเลยได้ก็จะต้องมีการประกันตัว

ติดต่อ หลักทรัพย์ประกัน

จะเห็นได้ว่าการประกันตัวผู้ต้องหา คดีอาญา สามารถเกิดขึ้นได้หลายขั้นตอนได้หลายลำดับ อยู่ที่ว่าคดีจะมาในรูปแบบไหน และอยู่ที่ ความประพฤติของผู้ต้องหาหรือจำเลยด้วย หากเบี้ยวไม่ไป ศาลตามนัด ก็จะมีการออกหมายจับ

เมื่อออกหมายจับแล้ว จำเลยมีทางเลือกอยู่ 2 ทางคือ

1 เข้ามอบตัวหรือ
2 รอให้ถูกจับ

ไม่ว่าทางหนึ่งหรือทาง 2 ก็จะต้องทำการประกันตัวต่อไป เพื่อให้ดำเนินคดีดำเนินการต่อไป จนคดีถึงศาลมีคำพิพากษา เป็นอันสิ้นสุดคดีในศาลชั้นต้น