วงเงินประกัน คดีลักทรัพย์ ประกันตัว ได้ไหม สำหรับการลักทรัพย์นั้น แบ่งเป็นคดีลักทรัพย์ในเวลากลางวัน และคดีลักทรัพย์ในยามวิกาล การลักทรัพย์ในยามวิกาลนับแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น และการลักทรัพย์ในยามวิกาลนี้มีบทลงโทษรุนแรงมากกว่าการลักทรัพย์ในเวลากลางวัน
รู้สิ่งนี้ก่อนประกันลักทรัพย์ ท่านจะไม่พลาด !!!
ตามประมวลกฎหมายมาตรา 334 “ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6000 บาท” มาตรา 335 เหตุฉกรรจ์กรณีลักทรัพย์ ว่า “ผู้ใดลักทรัพย์ [1]ในเวลากลางคืน หรือ[2]ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกอภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกัน หรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายต่างๆ……………..”
สำหรับการลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ตามกฎหมายเรียกว่ากระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท แต่ถ้าหากการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น เนื่องจากผลของการกระทำนั้น โดยต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ท่านเห็นไหมว่าการลักทรัพย์ เพียงอย่างเดียว หากมีองค์ประกอบข้อเท็จจริงแห่งความผิด ซึ่งแตกต่างกันออกไป นั่นย่อมมีบทลงโทษแตกต่างออกไปตามฐานความผิดต่างๆในประมวลกฎหมายอาญา
แต่ ตามมาตรา 71 วรรค1 “ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 334 ถึง 336 วรรคแรกและมาตรา 341 ถึงมาตรา 364 นั้นถ้าเป็นการกระทำความผิดที่สามีกระทำต่อภรรยาหรือภริยากระทำต่อสามี ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ”
วรรค2 “ความผิดดังที่ระบุมานี้ถ้าเป็นการกระทำที่บุพการีกระทำต่อผู้สืบสันดาน ผู้สืบสันดานกระทำต่อบุพการี หรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกระทำต่อกัน แม้กฎหมายมิได้บัญญัติให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ก็ให้เป็นความผิดอันยอมความได้ และนอกจากนั้นศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้”
การลักทรัพย์ระหว่างสามีภรรยาซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายนั้น เป็นเหตุยกเว้นโทษ ส่วนการลักทรัพย์ระหว่างญาติพี่น้องเป็นความผิดอันยอมความได้ และศาลจะลงโทษ น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด นั่นก็คือ มีบทลงโทษเบากว่าปกตินั่นเอง
สำหรับคดีลักทรัพย์ใช้วงเงินประกันตัวเท่าไหร่นั้น อันดับแรกต้องดูว่าผิดข้อหาลักทรัพย์บทธรรมดา หรือบทฉกรรจ์ (ตามประมวลกฎหมายอาญา)
คดียักยอกทรัพย์ ประกันตัวเท่าไหร่
ปรึกษาเรื่องหลักทรัพย์ ฟรี ได้ที่
#บริการ หลักทรัพย์ประกันตัว
สามารถใช้อะไรมาประกันตัวคดีลักทรัพย์ได้
1.เงินสด
2.พันธบัตรรัฐบาล
3.โฉนดที่ดิน
4.กรมธรรม์ประกันอิสรภาพ
โดยจะใช้หลักทรัพย์อะไรก็ให้ดูตามความเหมาะสม ว่าเรานั้นมีหลักทรัพย์อะไรอยู่ในมือที่จะนำมาประกันตัวในคดีลักทรัพย์ หาไม่พอก็ให้หาผู้ให้บริการทางด้านนี้ซึ่งให้บริการประกันตัว
คดีลักทรัพย์ ประกันตัวได้ไหม ใช้วงเงินประกันเท่าไหร่
ปกติข้อหาลักทรัพย์ ทางอาญา ผู้ต้องหามีสิทธิ์ขออนุญาตประกันตัวชั่วคราวได้ โดยหาก ถูกแจ้งความร้องทุกข์อาจจะต้องประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน หากเป็นการที่โจทก์ฟ้องตรงต่อศาลอาจจะต้องประกันตัวในวันนัดสอบคำให้การ หาพฤติการณ์ ผู้ต้องหาไม่ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ เช่นลักทรัพย์แล้วฆ่าเจ้าทรัพย์ตายอย่างทารุณ หรือไม่มีหมายจับในคดีอื่นค้างอยู่ การประกันตัวก็ไม่น่าจะมีปัญหา
สำหรับคดีลักทรัพย์ บทธรรมดาใช้หลักทรัพย์ประมาณ….
สำหรับคดีลักทรัพย์ บทฉกรรจ์ใช้หลักทรัพย์ประมาณ…
ลักทรัพย์ คืออะไร
ทางกฎหมายข้อหาลักทรัพย์เป็นการแย่ง ทั้งการครอบครองและกรรมสิทธิ์ ของทรัพย์นั้นจากเจ้าของทรัพย์ โดยต้องมีเจตนาเป็นสิ่งสำคัญ คือมีเจตนาโดยทุจริต
ลักทรัพย์ ยอมความไม่ได้
แค่มีเจตนาทุจริตหยิบทรัพย์ของคนอื่นแม้เป็นเพียงมูลค่าเล็กน้อยเมื่อทรัพย์นั้นเคลื่อนที่ เช่น การลักนมกล่องในเซเว่น (ซึ่งมูลค่าไม่เกิน 30 บาท) เมื่อเราหยิบและเดินออกมาจากเซเว่น ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว (ต้องมีเจตนาว่าจะเอานมกล่องนั้นมาเป็นของเรา) และคนก็ชอบคิดว่าเมื่อเอาของเขามาก็เอาไปคืนก็จบกันไป มันไม่จบเพราะความผิดมันสำเร็จเรียบร้อยและหลักทรัพย์เป็นอาญาแผ่นดินอันไม่อาจยอมความได้
ซึ่งเรื่องราวทางกฎหมายมีเรื่องราวลึกลับซับซ้อน มากกว่าที่คนปกติจะเข้าใจ โดยใช้สามัญสำนึกธรรมดาเพราะบางกฎหมายนั้นเป็นกฎหมายซึ่งบัญญัติขึ้นมาหรือเรียกว่ากฎหมายเทคนิค เพื่อมาแก้ไขปัญหารึเปล่าที่เกิดขึ้นในสังคม บางกฎหมายเป็นกฎหมายที่มีรากฐานมาจากจารีตประเพณีหรือเป็นความผิดที่เป็นความผิดในตัวเอง แบบนี้คนทั่วไปอาจเข้าใจได้ในเรื่องความรับผิดชอบชั่วดี นั่นเอง ติดต่อ >>> ประกันอิสรภาพ คดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีอาญา ฐานความผิดหนึ่ง
มีปัญหาเรื่องกฎหมายให้ปรึกษาผู้ซึ่งมีความรู้กฎหมาย ได้แก่ทนายความ หรือนักกฎหมาย อย่าคิดเอง มันมีลูกเล่นเยอะ เดี๋ยวพลาด ยอมเสียค่าบริการนิดหน่อยดีกว่า