เห็นบางประเทศในแถบแอฟริกามีกบฏแบ่งแยกดินแดน มีกลุ่มติดอาวุธลักพาตัวเด็กนักเรียนผู้หญิง 200 คน เอาไปทำอะไรไม่ทราบชะตากรรม เห็นไหมว่าความแตกจากสามัคคีทำให้บ้านเมืองประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย งานนี้กฎหมายตามไม่ทันใช้ไม่ได้ ไม่ต้องไปคิดเรื่องประกันตัวหรือการดำเนินความผิดทางกฎหมายกับผู้ต้องหาหรือจำเลยอะไรทั้งสิ้น เพราะว่ากลุ่มติดอาวุธมันจะยิงเอาเสียก่อน คิดแล้วน่าใจหายมาเห็นใจประชาชนซึ่งอยู่ในประเทศเหล่านี้ ซึ่งเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ธรรมดา ไม่มีอาวุธที่จะต่อสู้ต่อกรได้ รัฐบาลก็ไม่สามารถดูแลประชาชนของตนเองได้อย่างดี เพราะว่าประชาชนนั้นมีเป็นจำนวนมาก ประเทศพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล รวมถึงรัฐบาลเอกราชขัดแค้นกำลังคนหรือเครื่องมืออันทันสมัย ที่ต้องออกมาต่อสู้กับกบฏแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้ ไม่แน่ใจว่าประเทศเหล่านี้มีระบบการประกันตัวผู้ต้องหาหรือการเช่าหลักทรัพย์เหมือนประเทศไทยหรือไม่อย่างไร เพราะว่าไม่เคยศึกษาจริงๆ แต่จะบอกว่าอยู่ที่ประเทศไทยอาศัยในประเทศไทยซึ่งสงบร่มเย็นมายาวนานนั้นดีกว่าเป็นไหนๆ เพราะว่าหากเกิดสงครามหรือมีการรบราฆ่าฟันกันรุนแรงแบบนี้ คนไม่ต้องทำมาหากิน มีแต่ระมัดระวังตัวสภาพเศรษฐกิจจะตกต่ำ และจะมีคดีอาชญากรรมอาชญากร เกิดขึ้นได้อย่างเป็นจำนวนมาก จากความไร้ระเบียบของบ้านเมือง กติกากฎหมายก็ใช้ไม่ค่อยจะได้ดังที่กล่าวมา ไม่ต้องไปคิดถึง การดำเนินคดีกับตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยผู้กระทำความผิด จนต้องดำเนินการประกันตัว มันไม่มีเรื่องเหล่านี้ ในเหตุการณ์ เหมือนสงครามกลางเมือง ในสงครามลักษณะแบบนี้ สิ่งที่มีอิทธิพลมากที่สุด นั่นคือใครมีอาวุธคนนั้นมีอำนาจ แล้วประชาชนตาดำดำจะอยู่อย่างไร ไม่มีระบบกฏหมายคุ้มครอง
เหตุการณ์ความรุนแรงในแต่ละบ้านเมืองใน ปัจจุบัน นับได้กว่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ในหลายประเทศ โดยเฉพาะบางประเทศซึ่งถูกแทรกแซงหรือแซงชั่น จากกองกำลังจากต่างประเทศที่เข้ามาหนุนหลัง เพื่อผลประโยชน์ใดบางสิ่งบางอย่างก็ตามนั้น ย่อมทำให้สถานการณ์ในประเทศนั้นๆเลวร้ายวุ่นวายยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น และทำให้มีตัวละครมากขึ้นในสนามรบ ซึ่งแอบแฝงกันด้วยฝ่ายต่างๆ ทั้งที่แสดงตัวออกมา ทั้งที่มิได้แสดงตัวออกมา แต่ผู้ที่ซึ่งได้รับผลกรรมหรือผลของเหตุการณ์นี้โดยตรง นั้นคือประชาชนทั่วไป ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศและมิได้มีอำนาจต่อรองมาก จะบินหนีไปอยู่ต่างประเทศก็ไม่ไหว เพราะว่ามีเงินไม่เพียงพอ หรือไม่มีบ้านซึ่งอยู่ในต่างประเทศ และเป็นคนที่ไม่ได้รู้ข่าวสารวงในหรือถ้าจะรู้ก็รู้เป็น ฝ่ายหลังที่สุด เพราะข่าวอะไรที่สำคัญสำคัญ ผู้ที่รู้ก่อนน่าจะเป็นบุคคลในชนชั้นผู้นำ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ ดังนั้น ถึงถือว่าการสู้รบ หรือสงครามกลางเมืองจะทำให้เกิดผลเสียต่อประชาชนทั่วไปมากที่สุด อย่างน้อยที่สุดประชาชนต้องอยู่อย่างหวาดผวาไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองจะมีมือที่ 3 ผู้ฉวยโอกาสเข้ามากระทำความผิด โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเนื่องจากไม่มีใครที่จะมา ดำเนินการ และการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายหรือเพื่อผ่านขั้นตอนประกันตัวนี้ไม่สามารถทำได้ลำพังเพียงงานหลักรบกับฝ่ายตรงกันข้ามของเจ้าหน้าที่ก็ยังเอาตัวแทบไม่รอด แต่อาจจะมีบางกลุ่มได้ผลประโยชน์ เช่น ผู้ค้าอาวุธอาจจะส่งอาวุธเข้ามาขายให้กับกลุ่มต่างๆ อย่างนี้ผู้ค้าอาวุธก็ได้เงินก้อนโตกลับไป โลกใบนี้มันก็แอบแฝงไปด้วยผลประโยชน์กันทั้งสิ้น แต่จำไว้ว่าในสถานการณ์วุ่นวายยุ่งเหยิงทางการเมืองแบบนี้กฎหมายมักจะใช้ไม่ค่อยจะได้ไม่แน่ใจว่าจะต้อง มีการเช่าหลักทรัพย์หรือประกันตัวดำเนินคดีในชั้นศาลตามปกติหรือไม่ หรือว่าไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอ ที่จะมาดำเนินการทางด้านนี้เนื่องจากต้องผันกำลังไปทำการ ต่อสู้ ในลักษณะ เป็นทหารต่อสู้กันมากกว่า สรุปเป็นว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ไม่มีการ ประกันตัวผู้ต้องหา ระบบต่างๆ รวนเรกันไปหมด ไม่ใช่ว่าจะอาศัยอยู่ได้โดยง่าย เมื่อไม่มีการประกันตัวผู้ต้องหานั่นหมายความว่าระบบกฎหมายไม่สามารถพึ่งพาได้ อาจจะมีแต่อาวุธเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งพา